วันพุธที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2554

รสทป.ร่วมกับภาครัฐและเอกชน ชุมชน สถานศึกษา ปลูกป่าเฉลิมพระเกียรสมเด็จพระชาชินี ๑๒ สิงหา ๒๕๕๔ ใกล้หลังแป




              รวมพลังจิตอาสาปลูกป่า
               ถวายเป็นพระราชกุศล
               ๑๒ สิงหา มหาราชินี
ราษฎรอาสาสมัครพิทักษ์ป่าเพื่อรักษาชีวิต
                 (รสทป.)เขาสวนกวาง
สิงหาคม ๒๕๕๔ ณ ป่าชุมชนเขาสวนกวาง
 
    เมื่อวันที่ ๙  สิงหาคม ๒๕๕๔ ณ ภูเขาสวนกวาง ราษฎร์อาสาสมัครพิทักษ์ป่าเพื่อรักษาชีวิต (รสทป) เขาสวนกวาง นำโดยนายสัญญา บุญสิทธิ์ ประธาน รสทป.เขาสวนกวาง ได้จัดกิจกรรม ปลูกป่าเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมและลดภาวะโลกร้อน ซึ่งเป็นการรวมเอาพลังจากภาคส่วนต่างๆ มาร่วมกิจกรรม และได้เชิญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น นายธนวัฒน์ พลอยโสภณ มาเป็นประธาน และได้เชิญนายจารึก เหล่าประเสริฐ นายอำเภอเขาสวนกวาง มาร่วมงาน 


  

                        กิจกรรมที่ สำคัญ ก่อนถึงวันปลูก บุคลากรจากหน่วยส่งเสริมการควบคุมไฟป่า ได้ระดมกำลังเตรียมพื้นที่ อย่างหนัก เช่นการเตรียมหลุม การทำหลักหมายและยึดลำต้น การเตรียมหลุม การแบ่งพื้นที่ ให้ แต่ละโรงเรียน  เมื่อถึงวันงาน โรงเรียนต่างๆได้ทยอยนำนักเรียนของตัวเองมารวมพลในพื้นที่  และได้มอบกล้าไม้ให้นักเรียนในโรงเรียนที่พร้อม นำไปปลูกตามพื้นที่ที่เตรียมไว้ให้
                     เมื่อเวลา ๑๐.๐๐ น. รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายธนวัฒน์ พลอยโสภณ ได้เดินทางมาถึง เมื่อถึงเวลาที่ประกอบพิธี นายสนองอินทรังษี หัวหน้าสถานีวิทยุท้องถิ่นไทย เขาสวนกวาง FM 91.75 MHz ได้เชิญ นายสัญญา  บุญสิทธิ์ ประธาน รสทป.ได้กล่าวรายงานถึงความเป็นมาและวัตถุประสงค์ เสร็จแล้ว ได้เชิญประธานได้กล่าวเปิดงาน ซึ่งความตอนหนึ่งประธานได้ยกย่องกลุ่ม รสทป.เน้นให้เห็นถึงความสำคัญของป่าและต้นไม้ที่ช่วยปกป้องโลกจากภัยพิบัติ หลังการกล่าวเปิด รองผู้ว่าได้ ถวายกล้าไม้ ให้ หลวงพ่อยูวิน เพื่อนำไปปลูก และมอบต้นไม้ให้บุคคลสำคัญ เพื่อนำไปปลูกเช่นเดียวกัน
                    หลวงพ่อยูวิน ภูริปัญโญ ได้กล่าวสัมโมทนียกถา พระสงฆ์ ทั้งมวลให้พร และสวดบทชยันโต เพื่อความเป็น ศิริมงคล หลังจากนั้น หลวงพ่อยูวิน  รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอเขาสวนกวาง ได้ปลูกต้นยางนา(พญาไม้) เรียงกัน ๓ ต้น คนอื่น ๆ แยกย้านกันไปปลูกตามที่ได้เตรียมพื้นที่ไว้ให้

                  ผู้มีจิตศรัทธา สายหลวงพ่อยูวิน และหน่ายงานอื่น เช่นบริษัทไทยประกันชีวิตจำกัดขอนแก่น   ศูนย์ศึกษาและพัฒนาวิเคราะห์พันธุ์ยางเขาสวนกวาง   ตชด.๒๔ อุดรธานี(ศิษย์หลวงพ่อยูวิน) น้ำดื่ม   กลุ่มแม่บ้านบ้านห้วยไผ่ (ศิษย์หลวงพ่อยูวิน) ส้มตำไก่ย่าง ขนมจีน หน่อไม้ต้ม  รองปลัดเทศบาลโนนสะอาดพร้อมภรรยา(ศิษย์หลวงพ่อยูวิน)  นักศึกษา มหาวิทยาลัยชีวิต วิทยาเขตขอนแก่นได้แจกข้าวห่อ ขนม ไอศกรีม ให้นักเรียนและผู้มาร่วมงานทั่วไป
                   การปลูกป่าครั้งนี้ มีผู้มาร่วมงานมี บุคคลสำคัญ และสถานศึกษา มาร่วมงาน อย่างมาก เช่น การสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ ๘ (ขอนแก่น)นายอำนาจ อึงขจรกุล   หน่วยส่งเสริมการควบคุมไฟป่าที่ ๖ กลุ่มโรงเรียนกวางคำ เทศบาลตำบลเขาสวนกวาง  อบต.คำม่วง  บริษัท ปตท.สผ.อินเตอร์เนชันแนล จำกัด   วัดป่าสว่างพร สวนป่ารุกชาติเขาสวนกวาง ศูนย์เพาะพันธุ์สัตว์ป่าเขาสวนกวาง  สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง ๗ สถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน(ขอนแก่น)หอการค้าจังหวัดขอนแก่น สโมสรซอลต้า จังหวัดขอนแก่น   บริษัทไทยประกันชีวิตจำกัดขอนแก่น บริษัทขอนตอนกรีต จำกัด  บริษัท โตโยต้าอมตะขอนแก่น จำกัด  บริษัทน้ำแข็งมิตรภาพจำกัด(MP) สวนกวางรีสอร์ท บริษัทเบทาโกร จำกัด  บจม.ฟินิตซ์ พัลล์ แอนด์เปเปอร์  บริษัท ไอ.อีแอนด์ที จำกัด สถานีวิทยุท้องถิ่นไทย เขาสวนกวาง FM 91.75 MHz   ดอกไม้ฟาร์ม   ศูนย์ศึกษาและพัฒนาวิเคราะห์พันธุ์ยางเขาสวนกวาง  
 ตชด.๒๔ อุดรธานี(ศิษย์หลวงพ่อยูวิน) น้ำดื่ม   กลุ่มแม่บ้านบ้านห้วยไผ่ (ศิษย์หลวงพ่อยูวิน) ส้มตำไก่ย่าง ขนมจีน หน่อไม้ต้ม  รองปลัดเทศบาลโนนสะอาดพร้อมภรรยา(ศิษย์หลวงพ่อยูวิน)  นักศึกษา มหาวิทยาลัยชีวิต วิทยาเขตขอนแก่น รสทป.เขาสวนกวาง  โรงเรียนเขาสวนกวางวิทยานุกูล  โรงเรียนดงบังคุรุราษฎร์บำรุง โรงเรียนอนุบาลเขาสวนกวาง โรงเรียนบ้านทางพาดเขาสวนกวาง  โรงเรียนบ้านโนนสว่างหนองตะนา โรงเรียนบ้านโนนทองห้วยบาก โรงเรียนบ้านนาอ่าง  โรงเรียนบ้านคำม่วง โรงเรียนบ้านดงเรืองประชาสรรพ์  


 โรงเรียนบ้านคำนางปุ่ม โรงเรียนบ้านนาค้อ โรงเรียนบ้านป่าหวายนั่งราษฎร์บำรุง ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ ๘  หัวหน้าศูนย์เพาะพันธุ์สัตว์ เขาสวนกวาง
หัวหน้าสวนรุกชาติเขาสวนกวาง หัวหน้าโชคชัย  เหลืองธุวปราณีต  ผอ.ศูนย์พัฒนายางพาราเขาสวนกวาง หลวงพ่อยูวิน ภูริปัญโญ  หลวงพี่พระมหาสมพร วัดเขาน้อย ผู้ใหญ่บ้านหนองตะนา ผู้ใหญ่บ้านโคกสว่าง  ผู้ใหญ่บ้านใหม่สีสุข  นายสัญญา บุญสิทธิ์ ประธาน รสทป. นายสุมินทร์ นารถเหนือ ศึกษานิเทศก์ นายสนอง  อินทรังษี    นายสมนึก เต็มธนกิจไพศาล  นายสุคนธ์ พงษ์สมบัติ นายสุรวุฒิ เรียงพะวา  นายสุรสิทธิ์  อัศยาพร ว่าที่ร้อยตรี ปัญมาศน์ มาศนพคุณรัตน์ ายสมบัติ สารพิมพ์ นายโกวิทยื จำปาวอรองผู้อำนวยการโรงเรียนเขาสวนกวางวิทยานุกูล  นายธนะชัย ศรีโพธิ์ชัย       นายชาลี สะตะ เป็น ต้น
                นับเป็นกิจกรรมที่น่ายกย่องชมเชย เป็นอย่างยิ่ง ขอทุกคนได้รับพร  ตามที่หลวงพ่อยูวิน ได้ มอบให้
                                                                                      สวัสดี..."ครูคำมี"



หลังแปช่วงวันแม่

             คนแน่นหลังแป ช่วงวันแม่ปีนี้ ยังไงๆ หลังแปก็ยังคงเป็น"หลังแป" และรักษาเอกลักษณ์ของตัวเองได้อย่างเป็นปกติ "หลังแป"เป็นจุดชมวิวที่มีทัศนียภาพที่มีมุมมองเปิดกว้างได้เกิน ๑๘๐ องศา แขกที่มาเยี่ยมบางคนมาด้วยความประทับใจมาแล้วมาอีก ขนญาติพี่น้องขึ้นมาอยู่มากิน และสูดอากาศบริสุทธิ์
บางคนมาแล้วชักภาพ แว็บ ๆ แลวก็ลงไป บางคนมาก็ไม่ยอมลงรถ ขัยรถล่อนไปมา จอดรถดูสักพักก็ลงไปบางคน(วันสะรุ่น) มาเพราะกิจกรรมของเพื่อนของรุ่น และของตัวเอง บางคนหลบๆมาอย่างนั้นแหละที่นี่ห่างไกลจากความวุ่นวายดี บางคนมาเพราะความรัก ผูกพัน มาแล้วมีความสุข วันไหนไม่ได้มาได้แหงนหน้าขึ้นภูก็มีความสุขบางคนที่ว่าก็"ครูคำมี"นี่เอง
           วันอาทิตย์ที่แล้ว กลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยชีวิต วิทยาเขตขอนแก่น นำโดยคุณนิมิตร กิตติคุณรัตน์ คุณดำรงค์ แก้วก่า ซึ่งเป็นสมาชิก  รสทป. ได้นำเพื่อนๆ นักศึกษารุ่นเดียวกัน ประมาณ ๕๐ คน ขึ้นมาทำกิจกรรมที่หลังแป โดยการเตรียมงานการนำเสนอโครงงานเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม(ถ้าผิดขออภัย) และวันที่ ๙ ที่ผ่านมาก็นำกลุ่มเข้าร่วมกิจกรรมปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติองค์พระราชินี และนำ"ไอศกรีม"ที่หวานเย็นมาแจกเด็กๆและบุคคลทั่วไปด้วย ขอให้ได้บุญกุศล เรียนจบเร็วๆ ตำแหน่งงานรออยู่

พี่น้องไม่ว่าจะเป้นกลุ่มใด เราขอขอบคุณที่อุตส่าห์ขึ้นมาเยี่ยมเรา และชทมวิวทิวทัศน์ ถ้าท่านจะสังเกตให้ดี จะเห็นมีร้านค้าขายขนมและเครื่องดื่ม และร้านอาหาร กรุณาอย่าเข้าใจผิดนะครับว่า เป็นกลุ่มที่แสวงหาประโยชน์จากนักท่องเที่ยว แต่เป็นร้านค้าสวัสดิการของ"รสทป." ที่อาสา หมุ่นเวียนกันมาดูแล มาเฝ้าเข้ายามามค่ำคืน เพื่อดูรักษาพื้นที่และดูแลความปลอดภัยให้แขกที่ขึ้นมาแล้วหลงไหลไม่อยากลงไป (เช่าเต็น รสทป.ซะเลย)
       พูดถึงรายได้ พอค่าน้ำมันรถขึ้นลง ค่าดูความสะอาด และค่าดูแลห้องน้ำ ให้นักท่องเที่ยว ถ้าท่านอยากให้เราอยู่ต่อไปได้ หากจะกรุณาอุดหนุนเราซื้อของเราบ้างก็จะดี ท่านทราบไหม ถึงใส่ลูกชิ้น ถาดโฟม ใส่อาหารที่ท่านซื้อมาและทิ้งไว้บนหลังแป มันกลายเป็นภาระการทำสะอาดที่นี่ค่อนข้างมาก รถขยะก็มาไม่ภึงบางครั้งต้องยัดใส่ถุงดำไปทิ้งที่ถังด้านล่าง น่าสงสารเขานะ ครับ
            ค่อไปเรามีแนวคิดที่จะทำถังรับเงินเศษ จากท่าน เพื่อนำมาใช้เป็นส่วนบริการ เงินบาท ๒ บาทที่เหลือใช้ ถ้าท่านนำลงไปก็คงได้ประโยชน์ไม่มากหลอก ถ้าท่านหยอดลงตู้รับ รวมกันหลายคน อาจเป็นกำลังใจให้เราที่จะรักษาหลังแป ให้ท่านมาใช้บริการ ตลอดไป...นะท่านนะ 

วันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ไปทุ่งดอกกระเจียว ๓


ทุ่งดอกบัวสวรรค์
ที่วนอุทยานเขาสวนกวาง(คนละที่กับอุทยานสัตว์ป่าอีสานตอนบน)
ความเป็นธรรมชาติที่เหลืออยู่ และจะอนุรักษ์ไว้สืบไป

            
             บ่ายวันศุกร์ที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๕๔  วันที่แดด"เปรี้ยงๆ" พวกเรา ๔ คน  ได้แก่ ท่านพ่อพรามณ์"เรืองชัย โสภะสุนทร" ท่านวันชัย รัตนแสง (เพื่อนป่าเจ้าเก่า ผู้มีความรู้เรื่องต้นไม้ค่อนข้างดี)   อ.ประเสริฐ ศรีสม พร้อมกับผม(ครูคำมี)ผู้จุดประเด็น"ทุ่งดอกกระเจียว" นำ Cherokee คันแกร่ง ไปจอดไว้ที่หลังแป และเริ่ม Start มุ่งตรงไปที่หัวภูขาดอีกรอบ(สำหรับผม)

          ใน"ตามหาดอกกระเจียว ๒" ได้ให้ข้อมูลแล้วไว้บ้างแล้วเกี่ยวชือสถานที่และระยะทาง วันนี้ขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมนิดหนึ่งว่าเส้นทางเป็นอย่างไรอย่างไร ขึ้นเขาลงห้วยหรือเปล่า 

           ถ้าเราเริ่มต้น ที่หลุมดิน(ห่างจากหลังแปไปทางทิศตะวันออก ประมาณ ๔๐๐ เมตร) ไปถึงหัวภูขาด ก็ประมาณ ๕๐๐ เมตร ถึง"หัวภูขาด" หมายความว่าเราถึงประตูทางเข้าของแหล่งที่หมายแล้วละ แต่เราอาจยังไม่พบ"บัวสวรรค์"(เปลี่ยนชื่อตามที่ชาวบ้านเรียกขานกัน) แต่สำหรับคนที่รักธรรมชาติที่ชอบดูภูมิทัศน์ที่สวยงามแปลกตาแล้ว มันคุ้มค่าจริงๆ จากประตูทางเข้า"แดน(ดอกบัว)สวรรค์" ไปถึงบ๋าหนามแท่งน้อยก็อีกประมาณ ๖๐๐ เมตร เดินเพลินๆเก็บเห็ดเพลินๆ แป๊บเดียวก็ถึงแล้ว...ดูแผนที่
          คณะของเรา ก้าวข้ามขอบหลุมดิน หายตัวเข้าไปในป่า ชั่วอึดใจก็ถึง"พลานหิน" จากพลานหินเลี้ยวซ้ายขวาแทรกลงไปตามซอกหิน ก็จะพบกับพลานหิน"ลื่น"ที่มีน้ำไหลผ่าน ต้องระวังตัวนิดหนึ่งใครลื่นล้มก็ทำให้ทั้งคณะหมดสนุก...จากนั้นก็เดินขึ้นลงบ้างตามเนินดินสลับกับเนินหิน ประมาณ ๘๐ เมตร ก็ถึง"หัวภูขาด" แล้ว

          ครั้งก่อน เราได้ขอข้อมูลจากทีมงานว่า ทำไมเรียกหัวภูขาด ได้รับคำตอบว่า ชื่อนี้เรียกตามลักษณะของภูมิประเทศ ที่ภูเขาลูกนี้(ลูกที่อยู่ตรงข้ามกับหลังแป)ทอดตัวเป็นแนวยาวแล้วเหมือนถูกแรงกระแทกให้ทั้งสองข้างแตกและขาดออกจากกัน จึงได้ชื่อตามนั้น
         ทุกครั้งที่ผมเข้ามาสัมผัสที่"ทุ่งดอกบัวสวรรค์" แห่งนี้ ผมนึกถึงกาพย์พรพไชยสุริยา ที่แต่งโดยท่าน"สุนทรภู" ที่บรรยาย  ลักษณะของธรรมชาติที่กินใจว่า

             " เห็นกวางย่างเยื้องชำเลืองเดิน  เหมือนอย่างนางเชิญ
พระแสงสำอางข้างเคียง
               เขาสูงฝูงหสงส์ลงเรียง  เริงร้องซ้องเสียง
สำเนียงน่าฟังวังเวง
                      กลางไพรไก่ขันบรรเลง   ฟังเสียงเพียงเพลง
 ซอเจ้งจำเรียงเวียงวัง
                     ยูงทองร้องกระโต้งโห่งดัง  เสียงฆ้องกลองระฆัง
แตรสังข์กังสดาลขานเสียง..."
      

    บรรยากาศ ชวนฝันจริงๆ    

 
          เมื่อก้าวข้ามหัวภูขาด ก็เหมือนหลุดเข้าไปใน"แดนสวรรค์" คณะของผม ต่างตลึงกับสิ่งที่พบเห็นที่ทุ่งแห่งนี้ เสมือนปูลาดด้วยพรมสีเขียว แล้วนำพันธ์ไม้ที่แปลกตามมาตกแต่งไว้บนผืนพรม มองขึ้นไปบนท้องฟ้าก็พบมวลเมฆขาวที่ลอยตัวอยู่ในท้องฟ้าสีฟ้าสด ซ้ายมือเหนือศีรษะสูงขึ้นไปมีโขดหินสลับกับต้นไม้รูปแปลกตานานาชนิด มองตามแนวลาดเอียงของป่าเพ็กสีเขียวสดไปทางชวามือด้านทิศ      ตะออก ก็จะพบกับแนวเขาอีกลูกที่เป็นฉากกั้นและกำหนดขอบเขตทุ่งบัวสวรรค์เอาไว้ ทุกก้าวย่างที่เราเดินไปตามเส้นทาง"คนป่า"ท้องทุ่งสีเขียวแห่งนี้ก็จะค่อยๆเปิดตัวให้เห็นพื้นที่กว้างออกไปเรื่อย...ไปจนถึง"ทุ่งบัวสวรรค์"

          ผมเดาใจสมาชิกที่ร่วมเดินทางว่า คงอึดอัดพอสมควรที่ยังไม่เห็น"ดอกบัวสรรค์" ...และแล้ว...ก่อนที่จะข้ามเนินแรกไป ไปสู่เนินที่สอง สายตาของผมก็สัมผัสกับสิ่งหนึ่งเข้า ผมหันกลับมาเล่น"มุข"กับคณะโดยค่อยกระซิบว่า "ค่อยเดิน อย่างส่งเสียง...อย่างส่งเสียงดัง มันจะหนีไปก่อน"...ผมต้องขอโทษที่เล่นมุขที่ค่อนข้างแรงกับคณะ...ในที่สุดผมก็พูดเสียงดังขึ้นพร้อมกับชี้มือไปข้างหน้าว่า"โน่น เห็นไหมทุ่งบัวสวรรค์ ผมกลัวว่าถ้าส่งเสียงดังมันจะหนีไปก่อน" ....คำด่าของคณะ"..@*&%EAQLO????????....(ไอ้บ้า)"

           ที่ทุ่งบัวสรรค์ ผมมอบกล้องให้ อ.วันชัย คนที่ผม confirm ว่า ถ่ายภาพได้ดีที่สุด น่าเสียดายคณะของพวกเรามีแต่"นายบาป" ไม่มี"นางแบบ"สักคนไม่กล้าเอาแก้มไปแนบกับดอกบัวสวรรค์ที่สวยสด... พวกเราเลือกถ่ายภาพมุมที่ชอบใจ ดอกที่สวยที่สุด ขอเรียนนิดหนึ่งว่า ทุ่งบัวสวรรค์ที่นี้ ขึ้นอยู่เองตามธรรมชาติ ธรรมชาติตกแต่งและจัดระเบียบด้วยตัวเขาเอง อาจจะไม่ลานตาเหมือนชัยภูมิที่คนเข้าไปจัดการ...บอกได้คำเดียวและหลายๆครั้งว่า "บริสุทธิ์"

         ผม เดินสำรวจ อ.ประเสริฐ เดินดูทั่วๆ แล้วก็ถ่ายไป เรื่อย ๆ อ.เรืองชัย ใช้โทรศัพท์มือถือ ถ่ายเท่าที่จะถ่ายได้ สำหรับ อ.วันชัยก็ก้มๆเงยๆ และเป่าน้ำเสียงดังฟู่ๆ เก็บภาพไปทีละดอกสองดอก...พอสมควรก็เดิทางกลับ

         เราไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือออกมานอกจากภาพถ่ายและความทรงจำ เพราะเราพอใจที่จะให้ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่นั่นตลอดไป...ให้เป็นสมบัติทางธรรมชาติอยู่คู่..."วนอุทยานแห่งชาติเขาสวนกวาง" สืบไป


                ครูคำมี นำภาพ "ขี้สูด" ที่ อ.เรืองชัยไปพบเข้าโดยบังเอิญ แต่ อ.วันชัยเก็บภาพไว้อย่างตั้งใจ


                                                            ขอคุณครับ

                                                                         "ครูคำมี"